6 หน่วยวัดปริมาณทางไฟฟ้าตามมาตรฐานสากล

ช่างไฟกำลังวัดค่าปริมาณทางไฟฟ้า

ไฟฟ้า คือสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของเรา การเข้าใจหน่วยวัดปริมาณทางไฟฟ้าจึงมีความสำคัญ ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์การใช้ไฟฟ้า คำนวณค่าไฟ และเลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เหมาะสม บทความนี้จะแนะนำหน่วยวัดปริมาณไฟฟ้าพื้นฐานที่พบได้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้รู้ว่าแต่ละหน่วยวัดคืออะไร และใช้ไฟฟ้าได้อย่างถูกวิธีมากขึ้น

หน่วยวัดปริมาณทางไฟฟ้าคืออะไร ?

หน่วยวัดปริมาณไฟฟ้า คือ มาตรวัดที่ใช้ในการแยกหน่วยของระบบไฟฟ้า และใช้ในการวัดปริมาณทางไฟฟ้า ซึ่งหน่วยวัดทางไฟฟ้าดังกล่าวเป็นมาตรฐานสากล โดยจะมีอยู่ในหลายหน่วย เช่น แรงดันไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า ความต้านทานทางไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้า และความถี่ โดยผู้ใช้สามารถนำเอาข้อมูลหน่วยไฟฟ้าเหล่านี้ ไปใช้ในการควบคุมและวิเคราะห์การทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การเลือกใช้ฟิวส์หรือเบรกเกอร์ที่เหมาะสม

6 หน่วยวัดปริมาณทางไฟฟ้า

การวัดปริมาณทางไฟฟ้า เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ทำความเข้าใจและจัดการกับระบบไฟฟ้าได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือในงานอุตสาหกรรม การรู้จักหน่วยวัดต่าง ๆ จะช่วยให้เลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยหน่วยวัดปริมาณทางไฟฟ้าที่เป็นหน่วยไฟฟ้ามาตรฐานสากลมีอยู่ 6 หน่วยหลัก ดังนี้

1. แรงดันไฟฟ้า (Voltage)

แรงดันไฟฟ้า หรือแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่เกิดจากการสะสมตัวของประจุไฟฟ้าระหว่างจุดสองจุด เพื่อเป็นแรงที่ผลักดันให้กระแสไฟฟ้าไหลในวงจร ยิ่งแรงดันสูง กระแสไฟฟ้าก็จะไหลได้แรงขึ้น โดยมีหน่วยเป็น โวลต์ (สัญลักษณ์: V)

2. กระแสไฟฟ้า (Current)

กระแสไฟฟ้า คือ ปริมาณอิเล็กตรอนที่ไหลผ่านจุดใดจุดหนึ่งในวงจรต่อหนึ่งหน่วยเวลา จากวัตถุที่มีประจุลบไปยังวัตถุที่มีประจุบวก โดยหน่วยวัดกระแสไฟฟ้าที่เราใช้กันทั่วไปคือ แอมแปร์ (Ampere) หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า แอมป์ (สัญลักษณ์: A)

3. ความต้านทานทางไฟฟ้า (Resistance)

ความต้านทานไฟฟ้า มีหน่วยเป็น โอห์ม (สัญลักษณ์ : Ω) คือ คุณสมบัติของวัสดุในการต้านทานการไหลของกระแสไฟฟ้า เปรียบได้กับความฝืดในท่อที่ทำให้น้ำไหลช้าลง วัสดุที่มีความต้านทานสูงจะยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้น้อย ในขณะที่วัสดุที่มีความต้านทานต่ำ เช่น โลหะ จะยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ง่าย

4. กำลังไฟฟ้า (Electric Power)

กำลังไฟฟ้า มีหน่วยเป็น วัตต์ (สัญลักษณ์ : W) คือ ค่าที่แสดงถึงอัตราการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ หรืออัตราการเปลี่ยนแปลงของพลังงาน ที่บอกให้เรารู้ว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าใช้พลังงานมากน้อยเพียงใด

5. พลังงานไฟฟ้า (Electrical Energy)

พลังงานไฟฟ้า มีหน่วยเป็น วัตต์ชั่วโมง หรือ ยูนิต (สัญลักษณ์: Wh) คือ ค่าที่แสดงถึงการใช้กำลังไฟฟ้าที่ถูกใช้ในช่วงเวลาหนึ่ง มักวัดในหน่วยวัตต์ชั่วโมง หรือกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ซึ่งเรียกว่า "ยูนิต" ในการคิดค่าไฟฟ้า เช่น หากใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาด 1,000 วัตต์ (1 กิโลวัตต์) เป็นเวลา 1 ชั่วโมง จะใช้พลังงานไฟฟ้า 1 กิโลวัตต์ชั่วโมง หรือ 1 ยูนิต

6. ความถี่ (Frequency)

ความถี่ มีหน่วยเป็น เฮิรตซ์ (สัญลักษณ์ : Hz) คือ ค่าที่ใช้ในการวัดความถี่หรือวัดจำนวนรอบของกระแสไฟฟ้าสลับต่อวินาที ไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งมีความถี่ 50 หรือ 60 เฮิรตซ์ (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ / ประเทศ) ซึ่งหากเลือกค่าความถี่ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้อุปกรณ์ทำงานผิดปกติหรือเสียหายได้ การเข้าใจหน่วยวัดจะช่วยให้สามารถเลือกสายไฟที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ควรปรึกษาช่างไฟฟ้าที่มีใบอนุญาตหรือวิศวกรไฟฟ้าเพิ่มเติมเสมอ เมื่อทำงานเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า

3 หน่วยวัดขนาดของสายไฟที่ควรรู้ก่อนซื้อ

การเลือกขนาดสายไฟที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญในการติดตั้งระบบไฟฟ้า เพราะมีผลต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการส่งกระแสไฟฟ้า ในปัจจุบัน ทั่วโลกมีหน่วยวัดขนาดสายไฟที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับภูมิภาคและมาตรฐานที่ใช้ โดยมี 3 หน่วยวัดหลักที่ควรรู้จัก ดังนี้

  1. Sqmm. (Square Millimeter) หน่วยวัดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นมาตรฐานระดับเอเชีย และยุโรป เป็นหน่วยวัดระบบเมตริก ซึ่งวัดจากขนาดพื้นที่หน้าตัดของตัวนำไฟฟ้า โดยมีมาตรฐานที่ถูกต้องตาม International Electrotechnical Commission (IEC)
  2. AWG (American Wire Gauge) หน่วยวัดของอเมริกา ไม่เพียงใช้วัดเฉพาะสายไฟ แต่ใช้วัดขนาดวัตถุต่าง ๆ ที่เป็นเส้นยาวด้วย เช่น ลวดเหล็ก หรือขนาดของสร้อยคอ โดยการอ่านค่าการวัด คือ ตัวเลขยิ่งน้อย ขนาดสายไฟจะยิ่งใหญ่ ตัวเลขยิ่งมาก ขนาดสายไฟยิ่งเล็ก โดยมีหน่วยงานที่กำหนดมาตรฐานคือ American Society for Testing and Materials (ASTM)
  3. SWG (Standard Wire Gauge) เป็นหน่วยวัดที่คิดค้นโดยสหราชอาณาจักร เป็นหน่วยวัดที่อังกฤษใช้ มีลักษณะการใช้งานคล้าย AWG แต่มักได้รับนิยมน้อยกว่า ระบบนี้จะใช้งานในการวัดขนาดเส้นลวดชนิดอื่น ๆ เช่น ขนาดของสายลวด หรือสายกีตาร์

เมื่อรู้จักหน่วยวัดปริมาณทางไฟฟ้าและขนาดของสายไฟกันไปแล้ว ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้สามารถเลือกสายไฟที่เหมาะสมกับการใช้งาน และมีความปลอดภัยสูงสุด และหากคุณกำลังมองหาสายไฟที่ได้มาตรฐานมาเลือกช็อปสายไฟที่เหมาะกับการใช้งานได้อย่างมั่นใจ เพียงปรึกษาและเลือกซื้อที่ STS Thonburi บริษัทขายสายไฟจากหลายแบรนด์ชั้นนำ เช่น ไทยยูเนี่ยน (Thai Union), PKS และ FUHRER คุณภาพดี พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ

หากไม่รู้จะต้องเลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อกับเราได้เลย พร้อมบริการจัดส่งให้ถึงที่ทั่วประเทศ !

แหล่งอ้างอิง

  1. คู่มือช่างไฟ หน่วยวัดทางไฟฟ้า ( ฉบับสมบูรณ์ ) สืบค้นเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 จาก https://www.euroventblower.com/th/news/content-media/คู่มือช่างไฟ-หน่วยวัดทางไฟฟ้า-ฉบับสมบูรณ์ 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้