รู้จักสายไฟแต่ละชนิด เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

รู้จักสายไฟแต่ละชนิด เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

สายไฟ เป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบไฟฟ้าทุกระบบ มีหน้าที่หลักคือการส่งกระแสไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ โดยแต่ละประเภทของสายไฟมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกสายไฟที่เหมาะสมกับงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้า วันนี้จะพาทุกคนไปดูกันว่า สายไฟมีกี่ประเภท และควรเลือกสายไฟให้ตอบโจทย์การใช้งานอย่างไร !

ประเภทของสายไฟ

สายไฟ (Electric Wire) อุปกรณ์ที่ส่งพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ทำหน้าที่นำกระแสไฟฟ้าให้ไหลผ่าน โดยสายไฟแต่ละประเภทจะแบ่งตามแรงดันไฟฟ้า ดังนี้

สายไฟแรงดันต่ำ (Low Voltage Power Cable)

สายไฟแรงดันต่ำ เป็นสายไฟที่ใช้กับระบบไฟฟ้าทั่วไปในบ้าน อาคาร และสถานประกอบการ มีแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน 750 โวลต์ (V) ผลิตจากทองแดงหรืออะลูมิเนียม โดยทั่วไปนิยมใช้สายทองแดง หุ้มฉนวนด้วย PVC หรือ XLPE แบ่งออกเป็นหลายประเภทย่อย ดังนี้

  • สายไฟชนิด THW : สายไฟชนิดตัวนำสายแข็ง 1 แกน หุ้มฉนวน PVC รองรับแรงดันได้ 750 โวลต์ เหมาะสำหรับการเดินในช่องเดินสายไฟ หรือฝังท่อ ห้ามฝังดินโดยตรง
  • สายไฟชนิด NYY : สายไฟชนิดกลมที่มีทั้งแบบแกนเดี่ยว หลายแกนและมีสายดิน ฉนวนและเปลือกหุ้มด้วย PVC รองรับแรงดันได้ 750 โวลต์ เหมาะสำหรับใช้เป็นสายเมนจ่ายกำลังไฟฟ้า ติดตั้งบนรางสายไฟฟ้า และร้อยท่อฝังดิน
  • สายไฟชนิด VAF : สายไฟฟ้าที่คนทั่วไปคุ้นเคยที่สุด เป็นสายแกนคู่ ตัวนำไฟฟ้าผลิตจากทองแดง รองรับแรงดันได้ 500 โวลต์ ฉนวนและเปลือกหุ้มด้วย PVC เหมาะสำหรับติดตั้งแบบเดินในราง เดินลอยตีกิ๊บ หรือเข็มขัดรัดสายภายในอาคาร
  • สายไฟชนิด VCT : สายไฟที่มีความอ่อนตัวและทนต่อแรงสั่นสะเทือนได้ดี มีทั้งแบบแกนเดี่ยว หลายแกน และมีสายดิน ฉนวนและเปลือกหุ้มด้วย PVC ตัวนำไฟฟ้าผลิตจากทองแดงฝอย รองรับแรงดันได้ 750 โวลต์ เหมาะสำหรับใช้ติดตั้งตามอาคารต่าง ๆ

 

สายไฟแรงดันสูง (High Voltage Power Cable)

สายไฟแรงดันสูง คือสายไฟที่รับแรงดันไฟฟ้าตั้งแต่ 1 KV ~ 36KV เพื่อใช้ในระบบไฟฟ้าที่มีแรงดันสูงกว่าระบบไฟฟ้าปกติที่ใช้ในบ้านหรืออุตสาหกรรมทั่วไป เป็นสายชนิดตีเกลียวที่มีขนาดใหญ่ ตัวนำทำจากทองแดง มีทั้งแบบเปลือยและหุ้มฉนวน สามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ดังนี้

  • สายอะลูมิเนียมตีเกลียวเปลือย (AAC) : สายไฟตัวนำอะลูมิเนียมตีเกลียวเปลือก ใช้สำหรับงานติดตั้งแขวนบนเสาไฟฟ้าแรงสูง
  • สายอะลูมิเนียมผสม (AAAC) : สายไฟตัวนำแบบผสมผลิตจากอะลูมิเนียมแมกนีเซียมและซิลิคอน จึงทนต่อการกัดกร่อนจากไอเกลือได้ดี นิยมใช้เดินสายบริเวณชายทะเล
  • สายอะลูมิเนียมแกนเหล็ก (ACSR) : สายไฟตัวนำอะลูมิเนียมตีเกลียวชนิดเปลือยเสริมแกนเหล็ก สามารถรับแรงดึงได้สูงกว่าชนิด AAC นิยมใช้กับงานติดตั้งแขวนบนเสาไฟฟ้าแรงสูง
  • สาย Partial Insulated Cable (PIC) : สายไฟตัวนำอะลูมิเนียมแบบตีเกลียวอัดแน่น หุ้มฉนวนด้วย XLPE จึงสามารถรับแรงดันได้สูงขึ้น นิยมใช้เดินในอากาศผ่านลูกถ้วย
  • สาย Space Aerial Cable (SAC) : สายไฟตัวนำอะลูมิเนียมแบบตีเกลียวอัดแน่น หุ้มฉนวนและเปลือกด้วย XLPE จึงมีความทนทานมากกว่าสาย PIC นิยมใช้ในการเดินสายไฟบน Cable Spacer
  • สาย Cross-linked Polyethylene (XLPE) : เป็นสายชนิด Fully Insulated ที่มีส่วนประกอบหลายชั้น โดยชั้นตัวนำผลิตจากทองแดงตีเกลียวที่ถูกหุ้มด้วยชั้นชีลด์ เพื่อช่วยลดการเกิด Breakdown ชั้นฉนวน XLPE ถูกหุ้มด้วยชั้นชีลด์ เพื่อจำกัดสนามไฟฟ้าให้อยู่ภายในสายเคเบิล และชั้นเปลือกนอกหุ้มด้วยพลาสติก PVC หรือ PE นิยมใช้ในการเชื่อมต่อกับพื้นที่ในอาคาร การเชื่อมต่อในตู้ควบคุม หรือการติดตั้งระบบไฟฟ้าในห้องปฏิบัติการต่าง ๆ
  • สาย Preassembly Aerial Cable (PAC) : สายไฟที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับสายไฟชนิด XLPE มีตัวนำเป็นอะลูมิเนียม และมีฉนวนหุ้มอีกหนึ่งชั้น ทำให้มีความปลอดภัยสูงกว่า สามารถเดินไฟฟ้าผ่านอาคารหรือบริเวณที่มีคนอาศัยอยู่ได้

 

 

การเลือกสายไฟให้เหมาะสมกับประเภทงาน

การเลือกประเภทสายไฟให้เหมาะสมกับงาน จะช่วยให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีปัจจัยหลัก ๆ ที่ต้องพิจารณา ดังนี้

  • แรงดันไฟฟ้าของระบบไฟฟ้าที่ใช้งาน : เลือกสายไฟที่มีแรงดันไฟฟ้ามากกว่าหรือเท่ากับแรงดันไฟฟ้าของระบบ เช่น หากระบบไฟฟ้ามีแรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ ต้องเลือกสายไฟที่มีแรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ขึ้นไป
  • กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านสายไฟ : กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านสายไฟขึ้นอยู่กับกำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้งาน โดยควรเลือกสายไฟที่มีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านได้อย่างปลอดภัย
  • สถานที่ใช้งาน : สถานที่ใช้งานมีผลต่อประเภทของสายไฟที่เลือก เช่น ภายในอาคาร : เลือกสายไฟที่ใช้ติดตั้งอาคาร เช่น สายไฟ THW, สายไฟ VAF, สาย XLPE ภายนอกอาคาร: เลือกสายไฟที่ทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น สายไฟฟ้า CV, สายไฟ NYY, สาย AAAC, สาย ACSR
  • มีมาตรฐานความปลอดภัย : เลือกสายไฟที่มีมาตรฐานความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น มอก. หรือ IEC เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
  • เหมาะสมกับงบประมาณ : มีราคาอยู่หลายระดับที่คุณสามารถเลือกซื้อ ขึ้นอยู่กับประเภท ขนาด และยี่ห้อ ของสายไฟ

 

สำหรับผู้ประกอบการที่มองหาสายไฟคุณภาพดี ได้มาตรฐานตั้งแต่โครงสร้างไปจนถึงการใช้งาน ต้องมาที่ STS Thonburi บริษัทขายส่งสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด และเป็นตัวแทนจำหน่ายที่รับมาจากโรงงานสายไฟโดยตรง ไม่ว่าจะเป็น Thai Union, PKS และ FUHRER ราคาโครงการ พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ แต่หากคุณไม่รู้จะต้องเลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อกับเราได้เลยที่โทร 094-325-5151 หรือ Line : @sts7744 (มี@)

 

แหล่งอ้างอิง

  1. BRIEF GUIDE TO CHOOSING THE RIGHT ELECTRICAL WIRING FOR YOUR HOME สืบค้นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 จาก https://www.kei-ind.com/blog/guide-to-choosing-the-right-electrical-wiring-for-your-home/ 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้