รวมแนวทางการต่อสายไฟ มือใหม่รู้ไว้มีวิธีอะไรบ้าง ?

รู้วิธีต่อสายไฟด้วยตนเอง ต่ออย่างไรให้ปลอดภัย มีกี่แบบ

เปิดวิธีช่วยต่อสายไฟสำหรับช่างที่มีประสบการณ์แต่ยังไม่ชำนาญมากพอ เมื่อมีเหตุจำเป็นที่ทำให้ต้องต่อขยายความยาว หรือแยกสายไฟก่อนวางระบบภายในอาคารหรือบ้านเรือน จะต้องทำการต่อสายไฟอย่างไรให้ใช้งานได้จริง และเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่เหมาะสม เรามีวิธีต่อสายไฟพร้อมอุปกรณ์ช่วยต่อมาฝากกัน

4 วิธีการต่อสายไฟที่แน่นและแข็งแรง เหมาะสำหรับการใช้งาน

สำหรับการต่อสายไฟที่แนะนำนี้ จะเป็นขั้นตอนสำหรับกรณีที่ต้องการเพิ่มความยาว หรือต้องการแยกสายไฟก่อนวางระบบ ซึ่งวิธีเริ่มต้นจะต้องทำการปอกฉนวนหุ้มสายออก เพื่อให้เห็นตัวนำทองแดงเสียก่อน โดยควรเว้นประมาณ 2-3 นิ้ว สำหรับใช้ต่อกับสายที่เอามาพ่วงและทำให้มีจุดต่อที่แน่นหนา ซึ่งวิธีการที่ใช้ในการต่อสายไฟจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 วิธีที่พบได้บ่อย ดังนี้

1. การต่อสายแบบหางเปีย หรือหางหมู

เริ่มต้นด้วยวิธีต่อสายไฟแบบหางเปีย หรือหางหมู ซึ่งเป็นการต่อสายแบบไม่รับแรงดึง เหมาะสำหรับการต่อกับสายไฟที่มีขนาดเท่ากัน โดยจะมีขั้นตอนการต่อดังนี้

  • ทำการปอกสายหุ้มฉนวนข้างละประมาณ 2-3 นิ้ว
  • ใช้คีมจับสายไฟทั้งสองเส้นไว้
  • ใช้คีมปากจิ้งจกหรือปากจระเข้สำหรับบิดเกลียว
  • พันกันให้แน่น ใช้คีมตัดเส้นตัวนำทองแดงส่วนปลาย หรือเลือกทำการพับปลายก็ได้เหมือนกัน
  • บีบเส้นตัวนำทองแดงเข้าหากันให้แน่นเป็นครั้งสุดท้าย โดยให้เหลือความยาวที่ 1-2 เซนติเมตร
  • พันด้วยเทปสายไฟ หรือสวมด้วยไวร์นัท (Wire Nut) ถือเป็นอันเสร็จสิ้น

2. การต่อสายแบบรับแรงดึง

การต่อสายแบบรับแรงดึง หรือการต่อสายเดี่ยว เหมาะสำหรับการต่อกับสายไฟในจุดที่มีการเคลื่อนที่ หรือต้องรับแรงดึง อย่างสายไฟมอเตอร์ สายไฟเครื่องจักร โดยจะมีขั้นตอนการต่อสายไฟ ดังนี้

  • ทำการปอกสายหุ้มฉนวนออกเส้นละประมาณ 3 นิ้ว
  • นำมาพาดกันเป็นเครื่องหมายกากบาท
  • ใช้คีมจับสายไฟทั้งสองเส้นเอาไว้ให้แน่น
  • ใช้คีมปากจระเข้หรือคีมปากผสมบีบ แล้วหมุนให้เป็นเกลียว
  • สุดท้ายใช้คีมบีบให้แน่น และใช้เทปพันสายไฟพันจนมิดชิด

3. การต่อสายแบบแยก (หลายจุด)

สำหรับการต่อสายไฟแบบแยกหลายจุด จะเหมาะสำหรับการต่อกับสายไฟเชื่อมกับอุปกรณ์อื่น ๆ สามารถทำได้โดยไม่ต้องตัดแต่ง หรืออาจต่อแยกสายเป็น 3 ทาง หรือ 4 ทาง แล้วแต่ประเภทงานที่นำไปใช้ โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • ปอกสายหุ้มฉนวนประมาณ 1.5 นิ้ว
  • ปอกสายที่จะแยกออกให้มีความยาวประมาณ 3 นิ้ว
  • จากนั้นให้นำมาพันกับสายไฟเส้นหลัก ในทิศทางตามเข็มนาฬิกา
  • ต้องพันจากจุดกึ่งกลางไปทางด้านข้างเท่านั้น
  • เสร็จงานด้วยการใช้คีมดึงและบิดเกลียวสายไฟให้หนาแน่น

4. การต่อสายแบบหุ้มฉนวนคู่

ปิดท้ายด้วยการต่อสายแบบหุ้มฉนวนคู่ ซึ่งเป็นลักษณะการต่อสายไฟเดี่ยวภายในฉนวนไปทีละเส้น หลังจากนั้นจึงจะหุ้มต่อด้วยเทปพันสายไฟเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร โดยมีขั้นตอนการต่อสายไฟ ดังนี้

  • ปอกสายหุ้มฉนวนปลายสายทั้งสองเส้นออกประมาณ 4-5 นิ้ว
  • ใช้คีมตัดสายเส้นใดเส้นหนึ่งของแต่ละข้างให้สั้นลง และรอยต่อต้องเยื้องกัน
  • นำมาพาดกันเป็นเครื่องหมายกากบาท
  • ใช้คีมจับสายไฟทั้งสองเส้นไว้ให้แน่น
  • ใช้คีมปากจระเข้บิดสายพันให้เป็นเกลียว
  • ต่อสายเดี่ยวไปทีละเส้น โดยที่ผลลัพธ์รอยต่อจะต้องไม่ตรงกัน
  • จากนั้นให้หุ้มด้วยเทปพันสายไฟให้แน่นหนา เป็นอันเสร็จสิ้น

สำหรับวิธีการต่อสายไฟแต่ละแบบ จะเลือกใช้ให้เหมาะสมตามประเภทของสายไฟซึ่งมีโครงสร้างที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม การต่อสายไฟที่ดีจะต้องคำนึงถึงขั้นตอนที่ถูกต้องอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความร้อน และไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้านั่นเอง

รายการอุปกรณ์ช่วยต่อสายไฟ

  • เทปพันสายไฟ : ใช้พันสายไฟเพื่อป้องกันไฟฟ้าช็อต และช่วยให้สายไฟมีความเป็นระเบียบ
  • ลูกเต๋าต่อสายไฟ : ใช้ต่อสายไฟเข้าด้วยกัน เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าทั่วไป
  • ไวร์นัท (Wire Nut) : ใช้ต่อสายไฟเข้าด้วยกัน โดยไม่ต้องใช้การบัดกรี เหมาะสำหรับสายไฟที่มีขนาดเล็ก
  • คัทเตอร์ : ใช้สำหรับตัดสายไฟ
  • คีมปากจระเข้ หรือคีมปากผสม : ใช้สำหรับจับสายไฟและงอสายไฟ

หากกำลังมองหาสายไฟที่ได้มาตรฐาน STS Thonburi ตัวจริงเรื่องงานสายไฟ พร้อมจะให้คำแนะนำแบบผู้เชี่ยวชาญ และจำหน่ายสายไฟฉนวน XLPE สำหรับใช้ในอาคารและอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีสายไฟจำหน่ายอีกหลากหลายชนิด พร้อมรับประกันคุณภาพมาตรฐานและราคาที่คุ้มค่า สอบถามเพิ่มเติมได้เลย พร้อมบริการจัดส่งให้ถึงที่ทั่วประเทศ !

ข้อมูลอ้าง

  1. การเดินสายไฟฟ้าแบบต่าง ๆ. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 จาก https://www.pcat.ac.th/_files_school/00000831/data/00000831_1_20141103-232814.pdf 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้